Pages - Menu

วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556

การคิดมูลค่าเงินหักอัตราเงินเฟ้อ

คงได้ยินกันมาบ้างว่าเงินในอนาคตจะมีค่าน้อยกว่าปัจจุบัน คงจะงง ๆ  กัน จริง ๆ แล้วไม่มีอะไรยาก ลองคิดกันดูนะครับว่า เมื่อซัก10 ก่อน เรายังหาข้าวตามสั่ง หรือก๋วยเตี๋ยวข้างทางทั่ว ๆ ไปกินกันได้ที่และ 20-25 บาท แต่ปัจจุบัน 30 ก็เริ่มหากินยาก  ง่าย ๆ เลย ถ้าเรามีเงิน100 บาทเมื่อ 10 ปีก่อน เราสามารถซื้อก๋วยเตี๋ยวได้ 5 ชาม แต่ปัจจุบัน 100 บาทเราซื้อได้แค่ 3 ชามกว่า ๆ แสดงว่าเงินเรามีมูลค่าน้อยลง หรือ คุณค่าของเงินน้อยลง
อ้าว แล้วเราจะเอาอะไรมาคิด หรือคำนวณยังไง จริง ๆ แล้วก็มีหลายวิธี แต่วิธีที่นิยมและค่อนข้างวัดได้ใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุดก็คือการเอาอัตราเงินเฟ้อมันคิดลด ซึ่งอัตราเงินเฟ้อจะประกาศโดยธนาคารแห่งประเทศไทยโดยมากอยู่ที่ 3-5% เริ่มฟังดูยุ่งยาก แต่ในความเป็นเราคิดในแง่ร้ายไว้ก่อนเลย จับ 5% มาคิดได้เลย ถ้าปีไหนเฟ้อน้อยกว่านี้ถือเป็นกำไรก็แล้วกัน
วิธีคิดง่าย ๆ คือ เอาเงินเฟ้อในแต่ละปีไปหารออกจากเงินต้น เช่น เงินต้น 100 เก็บไว้เฉย ๆ 2 ปี อัตราเงินเฟ้อคิดลดในที่นี้ 5%ก็แล้วกัน
ในปีที่
1เอา 100*(1-0.05) ก็จะได้ 95
ปีที่
2 เอา 95*(1-0.05) ก็จะได้ 90.25
แสดงว่า 100 บาท เก็บไว้เฉย ๆ เป็นเวลา 2 ปี มูลค่าของเงินจะเหลือเพียง 90.25 บาท เมื่อเทียบกันมูลค่าปัจจุบัน อ้าวแล้วถ้า 10 ปี บวก ลบ คูน หาร กันเยอะแยะไม่หมดเหรอ เอาสูตรไปเลยแล้วกัน

มูลค้าของเงินในปีที่ต้องการ = เงินต้น*(1-อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยต่อปี)จำนวนปี

ง่าย ๆ เลย ถ้าเงิน 100 บาท เก็บไว้ 10 ปี อัตราเงินเฟ้อ5% ก็จะได้

                      100*(1-0.05)10 = 100*0.598
                                                           
= 59.8 บาท

สังเกตุได้ว่าเงิน 100 บาท เก็บไว้ 10 ปี มูลค่าเสื่อมลงเหลือแค่  59.8 บาท (เมื่อเทียบกับมูลค่าปัจจุบัน) แต่ในทางกลับกัน ถ้าไม่ใช่เงินในมือเรา แต่ถ้าเราเป็นหนี้ หนี้สินเราก็จะลดลงด้วย แล้วเจ้าหนี้เรารู้ข้อนี้มั๊ย แน่นอนครับว่ารู้ยิ่งกว่าเราอีก และก็แน่นอนอีกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ส่วนมากจะเกิน 10% อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราคงไม่ต้องห่วงเลยว่า  เจ้าหนี้จะขาดทุน 555 หรืออีกแนวคิดหนึ่ง

เมื่อเรารู้แล้วว่าแต่จะปีแต่ละวัน มูลค่าเงินของเราลดลงเรื่อย ๆ แล้วมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ทำไงดี ตอบเลยไม่ต้องทำไงครับ แต่ทำงานของเราในหน้าที่ให้ดี แล้วบริษัทจะมีกำไร แล้วก็จะเอามาขึ้นเงินเดือนให้เรา ซึ่งอย่างน้อย ๆ ก็ควรขึ้นเงินเดือนให้เราซัก 5% ต่อปีนะครับ ใครได้เยอะกว่าก็ยินดีด้วย 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น