Pages - Menu

วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2556

การหามูลค่าปัจจุบัน

เนื่องจากค่าของเงินในอนาคตไม่เท่ากับค่าเงินในปัจจุบัน การจะติดสินใจต่าง ๆ จึงต้องมีการคิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน หรือมีการคิดลด (Discont) ค่าของเงินในอนาคตให้เป็นมูลค่าในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นมูลค่าปัจจุบันก่อน(Present Value) ตัดสินใจลงทุน จะเป็นตัวช่วยตัวหนึ่งที่ช่วยในการตัดสินใจว่า โครงการใดคุ้มค่าในการลงทุกมากกว่า โดยการหา
มูลค่าปัจจุบันของกำไรสุทธิ : Net Present Value :NPV ที่มีค่าสูงสุด โดยมูลค่าปัจจุบันของกำไรสุทธิคำนวณได้โดย


โดยที่
E(CF) = กระแสเงินสดที่คาดหมาย (Expected Cash Flow) และกระแสเงินสดหมายถึง รายรับ–รายจ่าย(ต้นทน)
C0 = อัตราคิดลด (Discount Rate) ซึ่งโดยทั่วไปมักใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นตัวแทน(บางกรณีอาจใช้อัตราเงินเฟ้อก็ได้)
ตัวอย่าง
นายสมชายเจ้าของบริษัทหนึ่ง กำลังจะตัดสินใจเลือกลงทุนในโครงการบางอย่าง ซึ๋งใช้เงินลงทุน 10 ล้านบาท เป็นเวลา 5 ปี โดยประเมินเบื้องต้นแล้วมีโครงการ 2 โครงการมาให้เลือก และมีรายได้ที่คาดว่าจะได้รับดังนี้
ปีที่
โครงการA
โครงการB
1
2
3
4
5
1
5
4
3
2
1
2
3
4
5

­จากตัวเลขรายได้จะเห็นได้ว่า ลงทุนเท่ากันที่ 10ล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปี ได้กำไรเบื้องต้นที่รวม 15 ล้านบาทเท่ากัน เราจึงจำเป็นต้องเลือกโครงการที่ได้ประโยชน์กับกิจการสูงสุด โดยใช้ NPV เป็นตัวเลือกหนึ่งในการช่วยตัดสินใจ โดยสมมุติให้อัตราคิดลดที่ 10% หรือ R=10/100=0.1


โครงการ A


= 0.909+4.132+3.00+2.04+1.24-10
= 1.321
ล้านบาท

โครงการ B

= 0.909+1.652+2.254+2.732+3.105-10
= 0.652
ล้านบาท

จากการคิดค่า NPV ทั้ง 2 โครงการแล้วจะได้ว่า เมื่อใส่การคิดลด จะเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ หรือมูลค่าเงินเฟ้อ ก็แล้วแต่กรณี แล้วแต่ลักษณะของการลงทุก แต่สุดท้ายจะได้ว่า กำไรที่ได้จากการลงทุนด้วยเงิน 10 ล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปี ทั้งสองโครงการจะมีกำไรเป็นตัวเงินเท่ากัน แต่เมื่อเอากำไรที่ประเมินได้มาคิดเป็นมูลค่าปัจจุบันแล้ว โครงการA จะมีมูลค่าของกำไรมากกว่า ดังนั้นในกรณีนี้จึงควรเลือกลงทุนในโครงการA

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น